เรื่องนี้ท่านผู้อ่านที่เป็นชายต้องระมัดระวังฟังไว้ เพราะหากไม่มั่นคงซื่อตรงต่อภริยาอันเป็นที่รักแล้วก็อาจถูกภริยาฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ โดยเฉพาะท่านชายที่นิยมมีเมียหลายคนต้องสุ่มเสี่ยงอาจถูกภริยาหลวงฟ้องเอาได้ เหตุเพราะกฎหมายบังคับให้ต้องมีหนึ่งสามีหนึ่งภริยา เมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องมีหนึ่งเดียวอย่างนี้ แต่เรากลับไปฝ่าฝืนผลที่ตามมาเราก็อาจได้รับโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา ทางแพ่งอาจถูกฟ้องเรียกค่าทดแทนจากภริยาตนเอง ส่วนทางอาญาอาจถูกฟ้องดำเนินคดีฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ เช่นเคยฉบับนี้เราก็มีข้อเท็จจริงซึ่งเป็นเรื่องจริงซึ่งศาลสูงได้เคยมีคำพิพากษาไว้แล้วมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกัน
ข้อเท็จจริงก็มีอยู่ว่า นายหลายภริยาเป็นฝ่ายผิดที่ไปมีหญิงอื่นเป็นภริยาอีกคนหนึ่งทั้งที่ตนเองมีนางรักเดียวเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนแล้ว นายหลายภริยาเลยถูกนางรักเดียวฟ้องหย่าและเรียกค่าทดแทน (กรณีที่นายหลายภริยามีไปมีหญิงอื่นเป็นภริยา) โดยนางรักเดียวได้เรียกค่าทดแทนจากนายหลายภริยาเป็นเงินจำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพราะทำให้นางรักเดียวต้องอับอาย ทำให้เพื่อนและคนรู้จักคิดว่า นางรักเดียวเป็นหญิงหม้ายเพราะสามีทิ้งร้างไป
เรื่องนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้นายหลายภริยากับนางรักเดียวหย่าขาดจากกัน และให้นายหลายภริยาจ่ายค่าทดแทนเป็นเงินจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาบอกว่า ค่าทดแทนจำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท นางรักเดียวไม่นำสืบให้เห็นได้ว่า เพราะเหตุใดจึงเสียหายถึง ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ศาลเลยกำหนดตามฐานานุรูปของนางรักเดียวและนายหลายภริยา รวมทั้งพฤติการณ์แห่งคดี โดยให้นายหลายภริยาชำระเงินค่าทดแทนจากการกระทำผิดของนายหลายภริยา จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๔๙๘/๒๕๕๒)
คำพิพากษาศาลฎีกาข้างต้นเห็นได้ว่า ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายสามารถเรียกค่าทดแทนเอากับสามีตนเองได้ หากสามีเป็นฝ่ายผิดไปมีภริยาน้อย และค่าทดแทนจากการที่สามีไปมีภริยาน้อยซึ่งทำให้ภริยาหลวงอับอาย ขายหน้า เสียชื่อเสียงเพราะถูกสามีสวมเขานั้น เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันนี้ศาลได้กำหนดค่าทดแทนไว้สูงมากถึง ๕๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้เขียนเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพื่อปรามพวกที่นิยมมีหลายเมีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น