วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

การฟ้องขอให้รับรองบุตร

                       การฟ้องขอให้รับรองบุตรนั้น  มีเหตุให้ฟ้องขอให้รับรองบุตรได้กี่เหตุอะไรบ้างที่กฎหมายกำหนดไว้ให้สิทธิหญิงมารดาฟ้องฝ่ายชายให้รับรองบุตรได้
                        ท่านผู้ฟังครับ  การเป็นบุตรชอบโดยด้วยกฎหมายของชายผู้เป็นบิดานั้นจริงๆแล้วมีอยู่ด้วยกัน    กรณี ครับ   
กรณีแรก  บิดามารดาได้สมรสกันในภายหลัง  ก็คือ  บิดามารดาได้จดทะเบียนสมรสกันนั่นเอง  เมื่อจดทะเบียนสมรสบุตรนั้นก็จะเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายชายนับแต่วันที่ได้จดทะเบียนสมรสกัน 
                        กรณีที่    บิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร  เมื่อจดทะเบียนบุตรก็จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายนับแต่วันจดทะเบียนนั้น
                        กรณีที่ ๓  ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย  กรณีนี้บุตรจะเป็นบุตรชอบโดยด้วยกฎหมายของฝ่ายชายก็ต่อเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
                        ที่พูดมาก็เป็นวิธีการที่จะทำให้เด็กที่เกิดมาเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายชายผู้เป็นบิดา
                        ส่วนการฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายนั้น  กฎหมายก็ได้กำหนดให้หญิงมารดามีสิทธิฟ้องชายให้รับเด็กที่เกิดกับตนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของชายได้หลายกรณีด้วยกันครับ 
กรณีแรก  เมื่อมีการข่มขืนกระทำชำเรา  ฉุดคร่า  หรือหน่วงเหนี่ยวกักขังหญิงมารดา  โดยมิชอบด้วยกฎหมายในระยะเวลาที่หญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ 
กรณีนี้  หญิงผู้เป็นมารดาก็สามารถที่จะฟ้องชายผู้นั้น  ให้รับเด็กที่เกิดกับตนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของชายได้
                        กรณีที่ ๒  เมื่อมีการลักพาหญิงมารดาไปในทางชู้สาว  หรือว่ามีการล่อลวงร่วมประเวณีกับหญิงมารดาในระยะเวลาที่หญิงนั้นอาจตั้งครรภ์
กรณีนี้  หญิงผู้เป็นมารดาก็สามารถที่จะฟ้องชายผู้นั้น  ให้รับเด็กที่เกิดกับตนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของชายได้

กรณีที่ ๓  เมื่อมีเอกสารของบิดาแสดงว่า  เด็กนั้นเป็นบุตรของตน
                        กรณีที่    เมื่อปรากฏในทะเบียนคนเกิดว่า  เด็กเป็นบุตรโดยมีหลักฐานว่า  บิดาเป็นผู้แจ้งการเกิด  หรือว่ารู้เห็นยินยอมในการแจ้ง
ทั้งสองกรณีนี้  หญิงผู้เป็นมารดาก็สามารถที่จะฟ้องชายผู้นั้น  ให้รับเด็กที่เกิดกับตนเอง  เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของชายได้
กรณีที่ ๕  เมื่อบิดามารดาได้อยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผย  ในระยะเวลาซึ่งหญิงมารดาอาจตั้งครรภ์ได้
กรณีที่    เมื่อได้มีการร่วมประเวณีกับหญิงมารดา  ในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์  และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเด็กนั้นมิได้เป็นบุตรของชายอื่น
กรณีที่    เมื่อมีพฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่า  เด็กนั้น  เป็นบุตร
ทั้งสามกรณีนี้  หญิงผู้เป็นมารดาก็สามารถที่จะฟ้องชายผู้นั้น  ให้รับเด็กที่เกิดกับตน  เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของชายได้เช่นเดียวกัน
ท่านผู้ฟังครับที่พูดมาทั้ง  7  กรณีข้างต้นก็เป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่กำหนดไว้ก่อนว่า  หากมีข้อเท็จจริงดังกรณีใดกรณีหนึ่งทั้ง  7  กรณีนี้เกิดขึ้นกฎหมายก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า  เด็กนั้นเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายชายนะครับ   
คราวนี้เรามาดู  คดีตัวอย่างกัน     
เรื่องนี้ก็มีข้อเท็จจริงอยู่ว่า  นางหนึ่งแต่งงานอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยากับนายสอง  โดยมิได้จดทะเบียนสมรส  มีบุตรด้วยกัน  1  คน คือ  เด็กหญิงสาม  หลังจากนั้นเกิดข้อพิพาทระหว่างนางหนึ่งกับนายสอง  โดยนางหนึ่งได้ขอให้นายสองไปจดทะเบียนรับรองบุตร  และให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กหญิงสาม  แต่นายสองไม่ยินยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของนางหนึ่ง
นางหนึ่งเลยฟ้องนายสองต่อศาล  ขอให้นายสองจดทะเบียนรับรองบุตร  และให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กหญิงสาม   หลังจากนั้นนางหนึ่งได้ยินยอมให้บิดามารดาของตนจดทะเบียนรับเด็กหญิงสามเป็นบุตรบุญธรรมในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
ท่านผู้ฟังว่า  นางหนึ่งจะขอให้ศาลพิพากษาว่า  เด็กหญิงสามเป็นบุตรของนายสอง  โดยให้นายสองไปจดทะเบียนรับรองบุตร  และให้นายสองจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กหญิงสามได้ไหม?  ครับ
เรื่องนี้ศาลบอกว่าอย่างนี้ครับ
ประการแรก  ศาลบอกว่า  ไม่ว่าเด็กหญิงสามจะไปอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของบิดามารดาของนางหนึ่ง  หรือว่าต่อมาหลังจากฟ้องคดีแล้วบิดามารดาของนางหนึ่งจะจดทะเบียนรับเด็กหญิงสามเป็นบุตรบุญธรรมแล้วก็ตาม 
ศาลบอกว่า  นางหนึ่งก็ยังมีสิทธิฟ้องขอให้เด็กหญิงสามเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสองได้  แม้นว่าเด็กหญิงสามจะไปเป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่นแล้วก็ตามนะครับ
ประการที่สอง  เมื่อเด็กหญิงสามเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสองแล้ว ศาลบอกว่า  นายสองจึงต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร  นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นต้นไป  จนกว่าเด็กหญิงสามจะบรรลุนิติภาวะ
เรื่องนี้ก็สรุปได้ว่า  นางหนึ่งสามารถที่จะฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า  เด็กหญิงสามเป็นบุตรของนายสอง  และให้นายสองจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้  แม้นว่าเด็กหญิงสามจะไปเป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นแล้วก็ตาม 

2 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ19 ธันวาคม 2556 เวลา 07:57

    จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม แม่ยินยอมคนเดียวได้มั๊ยครับ

    ตอบลบ