วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

ยิงขู่สามี

ยิงขู่สามี
                เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอยู่ว่า  นางหนึ่งเดียวรับราชการครู  กับนายสองใจรับราชการทหาร  จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภริยากัน  มีบุตร  2  คน  แล้วจดทะเบียนหย่า  จากนั้นนางหนึ่งเดียวกับนายสองใจได้จดทะเบียนสมรสกันอีกครั้งแต่การอยู่กินเกิดระหองระแหง นายสองใจมีภารกิจทางการทหารเป็นเวลานานต้องนำบุตรไปฝากไว้ที่บ้านญาติไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่บุตรอย่างใกล้ชิด ส่วนนางหนึ่งเดียวรายได้จากเงินเดือนเหลือไม่พออุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสอง  วันเกิดเหตุขณะนายสองใจและบุตรอยู่บ้านนายแดง  นางหนึ่งเดียวเข้ามาใช้อาวุธปืนยิงขู่นายสองใจ  2  นัด  กระสุนถูกขอบหน้าต่าง  เสา  และฝาบ้านสูงระดับศรีษะและหน้าอก  นอกจากนี้กระสุนปืนถูกสายไปฟ้าในบ้านเป็นเหตุให้ไฟฟ้าดับ  เหตุเพราะนายสองใจไปติดพันหญิงอื่น  นายสองใจจึงร้องทุกข์ดำเนินคดีเอากับนางหนึ่งเดียวแต่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง 
                ถาม  1.  นายสองใจจะอ้างเหตุที่นางหนึ่งเดียวใช้อาวุธปืนยิงขู่เป็นเหตุฟ้องหย่านางหนึ่งเดียวต่อศาลได้หรือไม่
                ตอบ  ได้  ด้วยเหตุผลที่ว่า แม้นายสองใจจะไปติดพันหญิงอื่น กฎหมายก็ไม่ให้สิทธินางหนึ่งเดียวใช้อาวุธปืนยิงนายสองใจ ไม่ว่าจะยิงด้วยสาเหตุหึงหวง  โกรธเคือง  หรือด้วยเหตุอื่นๆ    หรือจะยิงโดยเจตนาหรือ มิได้มีเจตนาฆ่านายสองใจ  เมื่ออาวุธปืนมีอานุภาพร้ายแรงสามารถทำลายชีวิตได้  นางหนึ่งเดียวก็ไม่สมควรที่จะกระทำอย่างยิ่ง การกระทำของนางหนึ่งเดียวที่ใช้อาวุธปืนยิงขู่นายสองใจจึงเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรงถือได้ว่าเป็นเหตุหย่าตามกฎหมาย
                ถาม  2.  นางหนึ่งเดียวจะอ้างว่า การยิงขู่ของตนเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของนายสองใจที่เป็นฝ่ายผิดไปติดพันหญิงอื่น  การกระทำของตนไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาได้หรือไม่
             ตอบ  ไม่ได้  ด้วยเหตุผลที่ว่า  แม้นายสองใจจะเป็นฝ่ายผิดไปติดพันหญิงอื่น  สิทธิของนางหนึ่งเดียวก็เป็นเพียงเหตุหย่าที่นางหนึ่งเดียวจะนำมาฟ้องร้องหย่าขาดเอาผิดกับนายสองใจได้เท่านั้น  ไม่ให้สิทธินางหนึ่งเดียวในการป้องกันสามีเพื่อไม่ให้ไปติดพันหญิงอื่นโดยใช้วิธีการยิงขู่
                ถาม  3.  นางหนึ่งเดียวกับนายสองใจใครจะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์
                ตอบ  นางหนึ่งเดียว  ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อนายสองใจรับราชการทหารมีภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ  ไม่มีเวลาเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด  และต้องนำบุตรไปฝากไว้ที่บ้านญาติ  ส่วนนางหนึ่งเดียวรับราชการเป็นครูแล้ว  ครูย่อมมีความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดูเด็กซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นได้ดีกว่าทหาร  ครูจึงเป็นผู้เหมาะสมที่จะใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์
                ถาม 4.  นางหนึ่งเดียวกับนายสองใจใครจะเป็นผู้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสอง
                ตอบ  นายสองใจต้องเป็นผู้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสอง  ด้วยเหตุผลที่ว่า  รายได้จากเงินเดือนของนางหนึ่งเดียวเหลือไม่พออุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น